วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ประวัติมหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง

ได้เริ่มก่อตั้งเมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๔๙๗  เดิมมีชื่อว่า ”วิทยาลัยหมู่บ้านจอมบึง”(Chombueng Village Institute) โดยก่อตั้งเป็นสถานศึกษาตามแนวคิด  "วิทยาลัยหมู่บ้าน"
ของประเทศตุรกีมีจุดมุ่งหมายในการก่อตั้ง ๔ ประการคือ

๑. เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนครูในชนบทที่ต้องการพัฒนา  โดยคัดเลือกนักเรียนในท้องถิ่นทุรกันดารเข้าศึกษาเป็นอันดับแรกเมื่อศึกษาสำเร็จแล้วให้กลับไปพัฒนาท้องถิ่นของตน
๒. เพื่อปลูกฝังนักศึกษาครูให้รักอาชีพครูโดยผ่านการศึกษาเล่าเรียนและฝึกงานหลายแบบ  เพื่อนำความรู้ความชำนาญไปลงมือปฏิบัติได้
๓. เพื่อให้นักศึกษาครูรู้จักปฏิบัติตนในการเข้าสังคมโดยอยู่ร่วมกันแบบประชาธิปไตยคือการเคารพนับถือกันช่วยเหลือเกื้อกูลกันมีสติ
๔. เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาในท้องถิ่นใกล้เคียง  ในระยะแรกวิทยาลัยหมู่บ้านจอมบึงได้เปิดสอนหลักสูตร ๕ ปี  โดยรับนักศึกษาทุนจากถิ่นทุรกันดารจากทั่วประเทศซึ่งสำเร็จชั้น
ประถมศึกษาปีที่ ๗ เข้าเรียนเมื่อสำเร็จแล้วจะได้รับวุฒิประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา
อ่านต่อ

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ

ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
                  เทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ เป็นอย่างมาก  ตัวอย่างเช่น
1.  การศึกษา  เทคโนโลยีสารสนเทศ  ช่วยในด้านการค้นคว้าศึกษาแหล่งข้อมูล      ทำให้การศึกษาง่ายขึ้นและไร้ขีดจำกัด   ผู้เรียนมีความสะดวกในการค้นคว้าวิจัย

2.  การดำรงชีวิตประจำวัน  ทำให้มีความสะดวกคล่องตัวและรวดเร็วในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน  สามารถทำงานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกันได้หรือทำงานใช้เวลาน้อยลง

3.  การดำเนินธุรกิจ  ทำให้มีการแข่งขันระหว่างธุรกิจมากขึ้น  ทำให้ต้องมีการพัฒนาองค์กรเพื่อให้ทันกับข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอดเวลาอันส่งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง
4.  อัตราการขยายตัวทุก ๆ ด้านที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  เพราะมีการติดต่อสื่อสารที่เจริญก้าวหน้าทันสมัย  รวดเร็วถูกต้องและ    ทำให้
เป็นโลกที่ไร้พรหมแดน

5.  ระบบการทำงานมีคอมพิวเตอร์มาใช้ซื่อสามารถทำงานได้มากขึ้น   งานบางอย่างมนุษย์ทำไม่ได  ้ก็ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยทำงานแทนซึ่งได้ผลถูกต้องรวดเร็ว
ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ  ต้องประกอบด้วย
             1.  ฮาร์ดแวร์ Hardware             
             2.  ซอฟต์แวร์  Software
             3.  อุปกรณ์ที่ใช้ในการให้บริการข้อมูลและติดต่อสื่อสาร
พื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศ  ประกอบด้วยส่วนประกอบ  ดังนี้
              1.  องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์  ได้แก่                  
                              1.  ฮาร์ดแวร์ Hardware 
                              2.  ซอฟต์แวร์  Software
                              3.  ข้อมูล  Data
                              4.  บุคลากร   People 
              2.   โปรแกรมเมอร์  นักวิเคราะห์ระบบและผู้ใช้งาน  Programmer,System  Analyst  และ User  เป็นบุคคลที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในงานคอมพิวเตอร์โปรแกรมเมอร์มีหน้าที่เขียนโปรแกรมตามที่นักวิเคราะห์ได้ออกแบบไว้       ส่วนผู้ใช้จะเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อทิศทางในการพัฒนาเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์มากที่สุด
               3.  หน่วยรับข้อมูล  หน่วยประมวลผลกลาง  หน่วยแสดงผลและหน่วยเก็บข้อมูล
                              หน่วยรับข้อมูล         ทำหน้าที่รับโปรแกรมและข้อมูลเข้าสู่คอมพิวเตอร์
                              หน่วยประมวลผล      ทำหน้าที่ประมวลผลและควบคุมการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด
                              หน่วยแสดงผล         ทำหน้าที่แสดงผลลัพธ์จากการประมวลผลข้อมูล
                              หน่วยเก็บข้อมูล       ทำหน้าที่เก็บข้อมูลที่รอการประมวลผล  และเก็บผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลในระหว่างที่รอส่งไปยังหน่วยแสดงผล
                 4.  การจัดการข้อมูล  ซึ่งหมายถึงแฟ้มข้อมูล
                 5.  การประมวลผล  ประกอบด้วย  3  ขั้นตอน
                             1.  การรวบรวมข้อมูล
                             2.  การประมวลผล
                             3.  การดูแลรักษา

เทคโนโลยีสารสนเทศรูปแบบต่าง ๆ
                1.   เทคโนโลยีระบบสารสนเทศ  เป็นระบบการจัดการสารสนเทศที่ทำหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นการบันทึก  การแก้ไข  การทำรายงาน  งานบัญชี งาน
ลงทะเบียน   ระบบสารสนเทศจะช่วยให้องค์กรมีความสะดวกรวดเร็วในการทำงานและยังช่วยเป็นข้อมูลในการตัดสินใจด้วย
                2.   เทคโนโลยีระบบเครือข่าย  เป็นระบบเทคโนโลยีที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน  มีประโยชน์ ดังนี้
                              1.  สามารถติดต่อถึงกันได้ด้วยจดหมายอิเล็กทอรนิกส์  (E-mail)
                              2.  จัดเก็บข้อมูลไว้รวมในที่เดียวกัน  ผู้อยู่ห่างไกลก็สามารถดึงข้อมูลนั้นไปใช้ได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง
                              3.  องค์กรประหยัดค่าใช้จ่ายงบประมาณด้านอุปกรณ์  เพราะระบบเครื่อข่ายสามารถใช้อุปกรณ์ร่วมกันได้
                              4.  สามารถทำงานร่วมกันได้หรือทำงานโดยใช้เอกสารชุดเดียวกัน
                 3.  เทคโนโลยีสำนักงานอัตโนมัติ  เป็นระบบการทำงานที่ใช้ระบบการชื่อมโยงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สำนักงาน  ซึ่งมีผลทำให้
                              1.  พนักงานสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทางจดหมายอิเลคทรอนิกส์ (E - mail)
                              2.  สามารถบันทึกแฟ้มเอกสารหรืองานพิมพ์เก็บไว้  และสามารถนำมาแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ง่าย
                              3.  การออกแบบงานต่าง ๆ ทำได้ง่ายสะดวกรวดเร็วและใช้งานได้ง่าย
                              4.  มีระบบฝากข้อความเสียง (Voice  Mail)
                              5.  การประชุมทางไกล (Vedio  Teleconference)
                  4.  เทคโนโลยีช่วนสอน CAI   ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก  โรงเรียนและสถานศึกษาก็เริ่มมีการพัฒนาโปรแกรมบทเรียนสำเร็จรูปขึ้นมาใช้และมีผลดีกับนักเรียนที่จะได้สื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัยและมีความน่าสนใจมากขึ้น

การจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ
                   1.  การนำมาประยุกต์ใช้งาน  จะต้องคำนึงถึงผลที่จะได้รับและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย
                   2.  การวางแผนที่ดี   เพื่อเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้เหมาะสมกับงานและเพื่อประโยชน์สูงสุดที่ควรจะได้รับ
                   3.  มาตรฐานการใช้งาน  ควรจะมีเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแล  ไม่ปล่อยปละละเลยหรือใช้ในทางที่ผิด
                   4.  การลงทุน ควรคำนึงถึงงบประมาณและผลประโยชน์ที่ได้รับด้วย  หากประโยชน์ที่ได้ไม่คุ้มค่าแก่การลงทุนก็ควรที่จะปรับแผนการเสียใหม่
                   5.  การจัดการข้อมูล ต้องระมัดระวังไม่ให้ข้อมูลซ้ำซ้อน  ควรมีการแบ่งปันข้อมูลเพื่อให้การทำงานร่วมกัน  มีการติดต่อสร้างความสัมพันธ์กัน
                   6.  การรักษาความปลอดภัยของระบบ  การใช้เทคโนโลยีร่วมกัน  ต้องมีการดูแลให้สิทธิแก่ผู้ใช้ภายในขอบเขตของแต่ละคน
            

บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ

บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ
      ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ทำให้มีการพัฒนาคิดค้น
      - สิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่อการดำรงชีวิตเป็นอันมาก
      - เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตได้เป็นอย่างดี
      - เทคโนโลยีทำให้การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐาน
      - สามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์มากขึ้น
      - เทคโนโลยีทำให้ระบบการผลิตสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมาก มีราคาถูกลง สินค้าได้คุณภาพ
      - เทคโนโลยีทำให้มีการติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก      
      - การเดินทางเชื่อมโยงถึงกันทำให้ประชากรในโลกติดต่อรับฟังข่าวสารกันได้ตลอดเวลา

ความหมายของสารสนเทศ

         สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข้อมูลที่มีสาระอยู่ในตัว สามารถสื่อความหมายให้เกิด
การเข้าใจกับผู้ที่ต้องการใช้ข้อมูลนั้น และสามารถที่จะนำไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้
การที่จะได้มาซึ่งสารสนเทศที่ต้องการนั้นจะต้องนำข้อมูล (data) ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่สนใจ
มาทำการประมวลผลเสียก่อน โดยข้อมูลที่นำมาประมวลผลนั้นอาจจะมาจากแหล่งข้อมูลทั้ง
ภายในหรือภายนอกองค์การ

เทคโนโลยีสารสนเทศ

เทคโนโลยี หมายถึง สิ่งที่มนุษย์พัฒนาขึ้น เพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ เข่น อุปกรณ์, เครื่องมือ, เครื่องจักร, วัสดุ หรือ แม้กระทั่งที่ไม่ได้เป็นสิ่งของที่จับต้องได้ เช่น กระบวนการต่าง ๆ
          
          เทคโนโลยี เป็นการประยุกต์ นำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ และก่อให้เกิดประโยชน์ ในทางปฏิบัติ แก่มวลมนุษย์กล่าวคือเทคโนโลยีเป็นการนำเอาความรู้ ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนที่เป็นข้อแตกต่างอย่างหนึ่งของเทคโนโลยี กับวิทยาศาสตร์ คือเทคโนโลยีจะขึ้นอยู่กับปัจจัย ทางเศรษฐกิจเป็นสินค้ามีการซื้อขาย ส่วนความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เป็นสมบัติส่วนรวมของ ชาวโลกมีการเผยแพร่โดยไม่มีการซื้อขายแต่อย่างใดกล่าวโดยสรุปคือ เทคโนโลยีสมัยใหม่เกิดขึ้นโดยมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นฐานรองรับ

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ประวัติส่วนตัว

นางสาวสาวิตตรี ทองดี
ฝน
รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับครู (PC9203)
อาจารย์ผู้สอน สุจิตตรา จันทร์ลอย
ภูมิลำเนา เจ้าของบล็อก 35 ม. 18 ต. เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี 70110
ทัศนคติ เป้าหมายมีไว้พุ่งชน
ความสามารถพิเศษ ร้องเพลงลูกทุ่ง
    numfon611 @Gmail.com
Tall ..0806510759